กระเพาะปัสสาวะอักเสบเรื้อรัง ใครกลั้นฉี่บ่อยต้องระวัง!

กระเพาะปัสสาวะอักเสบเรื้อรัง ใครกลั้นฉี่บ่อยต้องระวัง!

มาอีกแล้ว! โรคยอดฮิตของวัยหนุ่มสาวชาวออฟฟิศที่ไม่ค่อยมีเวลา นั่งทำงานทั้งวัน ไม่ชอบลุกไปเข้าห้องน้ำ และนอกจากนี้ยังพบได้บ่อยในผู้หญิงอีกด้วย โรคที่ว่านี้ก็คือ “กระเพาะปัสสาวะอักเสบเรื้อรัง” ซึ่งในโรคนี้หากสาว ๆ คนไหนเป็นแล้วก็ยิ่งมีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่ช่องคลอดและบริเวณทวารหนักได้ด้วย โดยหลายคนอาจมองว่าเป็นโรคที่ไม่ได้เป็นอันตรายร้ายแรงอะไรจึงทำให้อาจมองข้ามการดูแลตัวเอง แต่ในทางกลับกันรู้ไหมคะว่า หากปล่อยไว้นาน ๆ หรือปล่อยให้กลับมาเป็นบ่อย ๆ อาจส่งผลต่อการอักเสบของอวัยวะอื่น ๆ รวมถึงมีภาวะแทรกซ้อนตามมาได้ และที่สำคัญเลยคือ ถ้าหากเป็นแล้วส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างแน่นอน 

กระเพาะปัสสาวะอักเสบเรื้อรัง เกิดจากอะไร

ภาวะของกระเพาะปัสสาวะอักเสบเรื้อรัง เกิดมาจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่กระเพาะปัสสาวะ ซึ่งเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุหลักและพบได้มากนั่นคือ เชื้ออีโคไล ที่มาจากบริเวณทวารหนัก โดยจะพบได้บ่อยในผู้หญิงเพราะมีกายวิภาคของท่อปัสสาวะที่สั้นกว่าของผู้ชาย ส่งผลให้เชื้อโรคและเชื้อแบคทีเรียเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะได้ง่ายกว่า รวมถึงมีปากท่อปัสสาวะใกล้กับบริเวณช่องคลอดและทวารหนัก ทำให้มีโอกาสเสี่ยงที่จะมีการติดเชื้อที่ช่องคลอด โดยอาการเหล่านี้มักเป็นเรื้อรังจากการที่ปล่อยให้เป็นมานาน กลับมาเป็นซ้ำ เนื่องจากอาการในกลุ่มของการอักเสบเรื้องรังจะมีอาการน้อยกว่าแบบอักเสบเฉียบพลัน ทำให้คนที่เป็นไม่ได้ใส่ใจหรือละเลย ไม่เข้ารับการรักษาอย่างถูกต้อง ซึ่งผลที่ตามมาอาจทำให้ลุกลามไปถึงอวัยวะอื่น ๆ อย่างกรวยไตอักเสบ และไตจนอาจนำไปสู่ภาวะไตวายที่เป็นอันตรายต่อชีวิตเลยค่ะ

เช็กเลย! อาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

  • ปัสสาวะได้ไม่สุดหรือมีปัสสาวะไหลซึมออกมา
  • ปัสสาวะขัด รู้สึกแสบขณะปัสสาวะ
  • ปวดปัสสาวะบ่อย ๆ โดยเฉพาะในเวลากลางคืน
  • รู้สึกปวดหน่วงบริเวณกระเพาะปัสสาวะหรืออุ้งเชิงกราน
  • รู้สึกปวดขณะที่มีเพศสัมพันธ์
  • ปัสสาวะมีกลิ่นเหม็น กลิ่นแรง หรือมีเลือดปน 
  • บางรายอาจมีไข้ร่วมด้วย เป็นได้ทั้งไข้ต่ำ ๆ และไข้สูง

ใครบ้างที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

  • ผู้ที่ชอบกลั้นปัสสาวะ ทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตและสะสมคั่งค้าง ซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย
  • ในเพศหญิงมักมีความเสี่ยงมากกว่า เนื่องจากมีท่อปัสสาวะสั้นกว่าและอยู่ใกล้บริเวณช่องคลอด รวมถึงทวารหนัก ซึ่งทำให้เชื้อโรคเข้าทางกระเพาะปัสสาวะผ่านทางท่อปัสสาวะได้ง่าย
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง เช่น โรคเบาหวาน หรือผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง
  • ผู้ที่ดูแลสุขอนามัยได้ไม่ดีพอ เช่น การทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นแบบผิดวิธี เช็ดทำความสะอาดจากด้านหลัง (ทวารหนัก) มาด้านหน้า 
  • ผู้ที่ชอบสวนล้างช่องคลอดบ่อย ๆ 
  • หญิงตั้งครรภ์ โดยเฉพาะในช่วงระยะเวลาครรภ์ที่มากขึ้น ทำให้เกิดการกดดันที่ช่องท้อง ส่งผลให้กระเพาะปัสสาวะมีการคั่งค้างของปัสสาวะ ทำให้ติดเชื้อได้ง่ายกว่า
  • ผู้สูงอายุ เนื่องจากอาจเคลื่อนไหวหรือลุกเดินได้ไม่ดี อั้นปัสสาวะบ่อย หรือแม้แต่การรักษาสุขอนามัยได้ไม่ดีพอ โดยเฉพาะในรายที่มีโรคประจำตัว ช่วยเหลือตัวเองลำบาก
  • ผู้ที่ติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ จะมีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายกว่า

การตรวจวินิจฉัยโรค 

สำหรับการตรวจวินิจฉัยโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบเรื้อรัง เริ่มด้วยการซักประวัติคนไข้ ตรวจร่างกาย และมีการเก็บตัวอย่างปัสสาวะเพื่อส่งตรวจหาเชื้อและเม็ดเลือดขาว ซึ่งในรายที่เป็นชนิดเรื้อรังจะต้องมีการตรวจอัลตราซาวด์ หรือส่องกล้องตรวจกระเพาะปัสสาวะ เพื่อหาความผิดปกติและหาภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น นิ่วในกระเพาะปัสสาวะหรือบริเวณไต จากนั้นทำการวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับอาการต่อไปค่ะ

วิธีรักษาโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบเรื้อรัง

ในการรักษาภาวะของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ จะมีการรักษาโดยให้ยาฆ่าเชื้อตามชนิดยาและระยะเวลาที่ต้องรับประทานที่เหมาะสม ในบางรายแพทย์อาจให้ยาผ่านสายสวนเข้ากระเพาะปัสสาวะในทุก 1 – 2 สัปดาห์ เป็นระยะเวลา 6 – 8 สัปดาห์ นอกจากนี้ ยังต้องมีการบริหารอุ้งเชิงกรานเพื่อคลายกล้ามเนื้อ รวมถึงมีในรายที่ไม่มีการตอบสนองต่อวิธีการรักษาดังที่กล่าวมาแล้ว แพทย์อาจพิจารณาให้ใช้วิธีอื่น ๆ เช่น การใช้สารโบทูลินัมท็อกซิน (โบท็อก) ด้วยการฉีดไปยังผนังกระเพาะปัสสาวะ, เทคนิคการใช้ไฟฟ้ากระตุ้นไปยังเส้นประสาท, การใช้ยาแก้ปวดชนิดแรง และการผ่าตัดซึ่งเป็นวิธีทางเลือกลำดับสุดท้ายในรายที่ไม่มีการตอบสนองต่อการรักษาใด ๆ ค่ะ

การป้องกันให้ห่างจากโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

เมื่อเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบแล้ว ที่สำคัญคือ ต้องมีการเข้ารับการตรวจและรักษาอย่างถูกต้อง และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยเมื่อรักษาหายแล้ว นั่นก็คือการป้องกันดูแลตัวเองไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำแบบเรื้อรังอีก ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและดูแลตัวเองร่วมด้วย เช่น เมื่อปวดปัสสาวะไม่ควรกลั้น, การดื่มน้ำเปล่าให้ได้ 2 ลิตรต่อวัน, การดูแลรักษาสุขอนามัย โดยเฉพาะในผู้หญิงที่โอกาสเสี่ยงติดเชื้อได้ง่ายกว่าผู้ชาย จึงควรใช้วิธีการเช็ดจุดซ่อนเร้นจากด้านหน้าไปด้านหลัง, ก่อนและหลังมีเพศสัมพันธ์ควรปัสสาวะทิ้ง, หลีกเลี่ยงการสวนล้างช่องคลอด และในรายที่มีโรคประจำตัว อย่าง โรคเบาหวานควรรักษาระดับน้ำตาลให้คงที่ ควบคุมโรคที่อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย

สรุป

ภาวะของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบเรื้อรังเป็นชนิดที่อาจแสดงอาการไม่รุนแรงเท่ากับชนิดเฉียบพลัน ดังนั้น ทางที่ดีเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการเกิดโรค เราควรดูแลตัวเองและหมั่นสังเกตตัวเองหากอาการผิดปกติ โดยหากพบสิ่งผิดปกติใด ๆ เกิดขึ้นแนะนำให้รีบเข้าพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัย รวมถึงรักษาอย่างถูกต้องเหมาะสมทันท่วงที และหากรักษาหายแล้วควรมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดโอกาสเสี่ยงที่จะกลับมาเป็นซ้ำจนกลายเป็นโรคเรื้อรัง ซึ่งอาจส่งผลต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนอันตรายตามมาค่ะ

แพทย์หญิง ธนวรรณ ศิริสุข

แพทย์หญิง ธนวรรณ ศิริสุข

พญ. ธนวรรณ ศิริสุข (คุณหมอหนึ่ง หรือ Dr.Nueng) สูตินรีแพทย์ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์ความงาม ทางนรีเวช และสุขภาพทางเพศ หนึ่งในสูตินรีแพทย์ที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งของประเทศไทย คุณหมอหนึ่งได้เล็งเห็นถึงความสำคัญเกี่ยวกับสุขภาพบริเวณจุดซ่อนเร้น ที่ควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษ จึงได้นำความรู้และประสบการณ์กว่า 10 ปี ที่สั่งสมมา เพื่อมาแก้ไขปัญหาสุขภาพทางเพศให้กับคนไข้ได้ อย่างตรงจุด ร่วมกับเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย ช่วยให้คนไข้ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง ด้วยความตั้งใจอยากเห็นทุกคนมีสุขภาพทางเพศที่ดี

GENITIQUE CLINIC 
คลินิกดูแลจุดซ่อนเร้น

เราตระหนักดีว่าปัญหาสุขภาพทางเพศเป็นเรื่องสำคัญต่อความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตที่ดีโดยรวม หากปล่อยปละละเลยอาจนำไปสู่ผลกระทบทั้งทางร่างกาย สุขภาพจิต และความสัมพันธ์ ที่ Genitique Clinic จะทำให้คุณได้รับการดูแลด้วยมาตรฐานสูงสุดจากผู้เชี่ยวชาญด้านความงามเฉพาะทาง ที่ทุ่มเทเพื่อแก้ปัญหาความงามและสุขภาพทางเพศให้แก่ทุกคน เราผสมผสานความเป็นเลิศทางการแพทย์ เพื่อนำมาใช้ร่วมกับเทคโนโลยีขั้นสูง ออกมาเป็นโปรแกรมการรักษาที่หลากหลาย เพื่อปรับปรุงทั้งรูปลักษณ์ และการทำงานให้กับน้องสาวและน้องชายที่บกพร่อง ไม่ว่าคุณต้องเผชิญกับปัญหาจุดซ่อนเร้นเรื่องใด ขั้นตอนการรักษาที่ทันสมัยของเราจะช่วยแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ที่สำคัญตั้งแต่วินาทีแรกที่ก้าวเข้ามาในคลินิก คุณจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นส่วนตัว ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกปลอดภัยและมั่นใจมากยิ่งขึ้นตลอดกระบวนการรักษาที่คลินิกของเราอย่างแน่นอน