พออายุเริ่มมากขึ้น หรือผ่านการคลอดบุตรมาแล้วหนึ่งในอาการที่ผู้หญิงมักพบได้บ่อยเลยก็คือ “ภาวะมดลูกหย่อน” ซึ่งมาจากการเคลื่นตัวของมดลูกต่ำลงมาที่ช่องคลอด โดยอาการดังกล่าวมีระดับความรุนแรงที่แตกต่างกันออกไป แต่ทว่านอกจากจะส่งผลด้านสุขภาพแล้วยังส่งผลของสุขภาพจิตใจของคุณผู้หญิงไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะมดลูกหย่อนมักมาพร้อมกับอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ความรู้สึกขณะมีกิจกรรมรัก มีปัญหาเกี่ยวกับการปัสสาวะ หรือทำให้เดินไม่สะดวก บทความนี้ก็เลยจะพามารู้จักกับภาวะมดลูกหย่อนกันให้มากขึ้นว่ามันมีอาการอย่างไร ความรุนแรงมากน้อยแค่ไหน และมีวิธีการป้องกันหรือมีการแก้ไขอย่างไรได้บ้าง
เช็กเลย ! อาการมดลูกหย่อนเป็นอย่างไร
มดลูกหย่อน (Prolapsed Uterus) หรือปัญหามดลูกต่ำ (Pelvic Organ Prolapse) เป็นภาวะที่พบได้ในผู้หญิงที่มีอายุเยอะ ซึ่งมักจะเกิดจากกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อในอุ้งเชิงกรานที่มีหน้าที่ยึดมดลูกเกิดอ่อนแอลงจากการคลอดบุตรตามธรรมชาติหลายครั้งหรือในช่วงวัยหมดระดู จนทำให้มดลูกหย่อนลงไปในบริเวณช่องคลอด ซึ่งอาการที่เกิดขึ้นก็ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงที่เกิดขึ้น บางรายที่มีมดลูกหย่อนเพียงเล็กน้อยก็อาจจะไม่แสดงอาการใดๆออกมาเลย แต่สำหรับคนที่มีปัญหาในระดับรุนแรงก็สามารถสังเกตได้จาก
- รู้สึกหน่วงบริเวณอุ้งเชิงกราน หรือมีอาการปวดอุ้งเชิงกรานและบริเวณหลังส่วนล่าง
- มีเนื้อเยื่อโผล่ออกมาจากช่องคลอด
- มีเลือดออกมาจากบริเวณช่องคลอด
- มีตกขาวออกมาเยอะขึ้น
- รู้สึกเจ็บหรือไม่สบายตัวขณะมีเพศสัมพันธ์
- มีอาการท้องผูกขับถ่ายไม่สะดวก
- ปัสสาวะเล็ด กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ หรือต้องการปัสสาวะอยู่ตลอดเวลา
- รู้สึกเดินไม่สะดวก
- มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะปัสสาวะอักเสบอยู่บ่อยครั้ง
ระดับความรุนแรงของปัญหามดลูกหย่อน
ภาวะมดลูกหย่อนจะมีอาการและความรุนแรงที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล โดยเราสามารถแบ่งระดับความรุนแรงที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด 4 ระดับดังนี้
ระดับที่ 1 : มดลูกหย่อนมาที่ด้านบนของช่องคลอด
ระดับที่ 2 : มดลูกหย่อนมาใกล้บริเวณปากช่องคลอด
ระดับที่ 3 : มดลูกหย่อนออกมาภายนอกช่องคลอด
ระดับที่ 4 : มดลูกทั้งหมดนั้นหย่อนออกมานอกช่องคลอด หรือเรียกว่ามดลูกย้อย
นอกจากมดลูกแล้วอวัยวะอื่นๆที่อยู่ในบริเวณอุ้งเชิงกรานอาจมีการยืดหรือหย่อนออกมาทางช่องคลอดได้เช่นเดียวกันจนทำให้เกิดภาวะกระเพาะปัสสาวะหย่อน ไส้เลื่อน ที่ต้องได้รับการวินิจฉัยและรักษาที่เหมาะสมโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
สาเหตุของการเกิดปัญหามดลูกหย่อน
อาการมดลูกต่ำสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็น
- อายุมากขึ้น - ทำให้อวัยวะที่อยู่บริเวณอุ้งเชิงกรานเกิดเสื่อมสภาพลงหรือมีความหย่อนยาน โดยมักพบในช่วงวัยหมดระดูที่รังไข่จะหยุดผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งฮอร์โมนชนิดนี้ทำให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานมีความแข็งแรง เมื่อฮอร์โมนลดลงก็จะทำให้เกิดภาวะมดลูกหย่อนสูงมากยิ่งขึ้น
- การคลอดบุตร - โดยเฉพาะคุณแม่ที่มีการคลอดบุตรแบบธรรมชาติหลายครั้ง หรือข้อทารกที่มีขนาดใหญ่ก็มีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดอาการมดลูกหย่อนได้
- น้ำหนักตัว - คนที่มีน้ำหนักตัวมากหรือเป็นโรคอ้วนทำให้อุ้งเชิงกรานต้องแบบรับน้ำหนัก หรือมีแรงกดลงมาที่อุ้งเชิงกรานทำให้เกิดการเสื่อมสภาพเร็ว
- ยกของหนักเป็นประจำ - เวลาที่เราออกแรงยกของหรือเคลื่อนย้ายของที่มีน้ำหนักเยอะอยู่บ่อยครั้ง ก็จะทำให้เสี่ยงต่อภาวะมดลูกหย่อนหรือทำให้อวัยวะบริเวณอุ้งเชิงกรานเสื่อมสภาพลงเร็วกว่าปกติ
- ได้รับการผ่าตัดอุ้งเชิงกราน – คนที่เคยผ่านการผ่าตัดบริเวณอุ้งเชิงกรานมาก่อนก็จะมีแนวโน้มให้เกิดความหย่อนคล้อยของอวัยวะที่อุ้มเชิงการสูงกว่าคนปกติที่ไม่เคยได้รับการผ่าตัดมาก่อน
รักษาอาการมดลูกหย่อนด้วยวิธีไหนได้บ้าง
วิธีการรักษามดลูกหย่อนจะขอแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ซึ่งแต่ละวิธีก็จะเหมาะสำหรับความรุนแรงที่เกิดขึ้นในแต่ละเคสโดยมีรายละเอียดดังนี้
วิธีการรักษาแบบไม่ต้องผ่าตัด - วิธีนี้จะเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาในระดับที่ไม่รุนแรงมากโดยแพทย์จะแนะนำให้บริหารอุ้งเชิงกรานโดยการเกร็งกล้ามเนื้อ หรือการฝึกขมิบช่องคลอด วิธีการก็คือให้เกร็งค้างไว้เป็นเวลา 10 วินาทีจากนั้นให้ค่อยๆคลายออกอย่างช้าๆทำแบบนี้วนไปเซตละ 10 ครั้ง แนะนำให้ทำทุกวันวันละ 3-4 เซตต่อวัน หรือทำอย่างน้อย 4 วันต่อสัปดาห์ แต่สำหรับใครที่มีภาวะน้ำหนักตัวมากด้วยแพทย์ก็จะแนะนำให้ฝึกขมิบควบคู่ไปกับการลดน้ำหนัก
วิธีการรักษาโดยใช้อุปกรณ์ช่วยพยุงช่วงคลอด – วิธีนี้จะเป็นการใช้อุปกรณ์ช่วยพยุงช่องคลอดที่มีลักษณะเป็นยางนิ่มคล้ายกับโดนัท ยัดเข้าไปในช่องคลอดเพื่อดันมดลูกรวมไปถึงกระเพาะปัสสาวะให้กลับเข้าไปอยู่ที่เดิม แต่วิธีนี้เป็นการป้องกันได้เพียงชั่วคราวเท่านั้นและต้องถอดออกมาเพื่อทำความสะอาดอยู่เป็นประจำ
วิธีการรักษาที่ต้องใช้การผ่าตัด - การผ่าตัดแพทย์ก็จะต้องวินิจฉัยก่อนว่าระดับความรุนแรงที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ในระดับไหนซึ่งจะมีการผ่าตัดก็จะแยกออกไปหลายวิธีไม่ว่าจะเป็นการตัดมดลูกที่จะเหมาะสำหรับผู้ป่วยที่ไม่ต้องการมีบุตรแล้ว หรือการผ่าตัดเพื่อรักษามดลูกหย่อนร่วมกับอาการอื่นๆ ซึ่งก็จะมีการทำรีแพร์ การผ่าตัดแก้ไขปัสสาวะเล็ด เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม แต่ละวิธีที่เราได้แนะนำไปข้างต้นนั้นเราไม่สามารถประเมินได้ด้วยตนเองว่าจะเลือกวิธีการรักษาแบบใด ซึ่งจะต้องให้แพทย์เป็นผู้วินิจฉัยแบบรายบุคคลอย่างละเอียด เพราะในแต่ละเคสก็จะมีระดับความรุนแรงที่ไม่เหมือนกัน รวมไปถึงอาการที่แสดงออกมาแตกต่างกันออกไป ดังนั้นหากใครที่กำลังเผชิญปัญหานี้อยู่แนะนำให้เข้าไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาทางออกที่เหมาะสม
วิธีการป้องกันไม่ให้เกิดภาวะมดลูกหย่อน
พอมาถึงตรงนี้แล้วหลายคนอาจจะมีข้อสงสัยว่าแล้วเราควรมีวิธีการป้องกันไม่ให้เกิดภาวะมดลูกหย่อนขึ้นได้ยังไง เพื่อที่จะนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งเราก็ได้รวบรวมวิธีการป้องกันมาให้สาวๆได้ลองนำไปปรับใช้ได้ดังนี้ค่ะ
- ออกกำลังกายบริเวณอุ้งเชิงกราน เช่น การฝึกขมิบช่องคลอด ให้กล้ามเนื้อมีความกระชับมากยิ่งขึ้น
- ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเสื่อมสภาพของอุ้งเชิงกราน
- หลีกเลี่ยงการยกของหนัก หรือการเคลื่อนย้ายสิ่งของที่ต้องออกแรง
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ เนื่องจากว่าการสูบบุหรี่นั้นทำให้เกิดอาการไอเรื้อรัง ส่งผลให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานอ่อนแอและเสื่อมสภาพลงได้ง่าย
- ระมัดระวังไม่ให้ท้องผูกบ่อย เพราะการออกแรงเบ่งอุจจาระทำให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานหดเกร็งและทำให้หย่อนคล้อยได้ง่ายในอนาคต
- อยู่ในช่วงวัยหมดประจำเดือน แนะนำให้เข้าปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการใช้ฮอร์โมนทดแทน แต่การใช้ฮอร์โมนทดแทนนี้ก็อาจมีความเสี่ยงในเรื่องอื่นๆดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่ต้องปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดเพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจอีกครั้ง
สรุป
ตกขาวเป็นเรื่องที่สาว ๆ ไม่ควรมองข้าม ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ แต่มันก็เป็นอาการที่ช่วยบ่งบอกสุขภาพภายในของคุณผู้หญิงได้เช่นเดียวกัน ควรรีบเช็กสังเกตตัวเองว่าตกขาวที่มาในแต่ละครั้งมีลักษณะเป็นอย่างไร มีสี กลิ่นที่ผิดปกติไหม หากพบความผิดปกติควรเข้าพบสูตินรีแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและรักษาได้อย่างทันท่วงที สำหรับสาว ๆ คนไหนที่มีปัญหาเกี่ยวกับจุดซ่อนเร้นที่ GENITIQUE CLINIC พร้อมให้คำปรึกษาและให้การรักษาภายใต้สูตินรีแพทย์หญิงผู้มีความรู้และประสบการณ์ด้านการฟื้นฟูจุดซ่อนเร้น สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้
แพทย์หญิง ธนวรรณ ศิริสุข
พญ. ธนวรรณ ศิริสุข (คุณหมอหนึ่ง หรือ Dr.Nueng) สูตินรีแพทย์ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์ความงาม ทางนรีเวช และสุขภาพทางเพศ หนึ่งในสูตินรีแพทย์ที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งของประเทศไทย คุณหมอหนึ่งได้เล็งเห็นถึงความสำคัญเกี่ยวกับสุขภาพบริเวณจุดซ่อนเร้น ที่ควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษ จึงได้นำความรู้และประสบการณ์กว่า 10 ปี ที่สั่งสมมา เพื่อมาแก้ไขปัญหาสุขภาพทางเพศให้กับคนไข้ได้ อย่างตรงจุด ร่วมกับเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย ช่วยให้คนไข้ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง ด้วยความตั้งใจอยากเห็นทุกคนมีสุขภาพทางเพศที่ดี
GENITIQUE CLINIC
คลินิกดูแลจุดซ่อนเร้น
เราตระหนักดีว่าปัญหาสุขภาพทางเพศเป็นเรื่องสำคัญต่อความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตที่ดีโดยรวม หากปล่อยปละละเลยอาจนำไปสู่ผลกระทบทั้งทางร่างกาย สุขภาพจิต และความสัมพันธ์ ที่ Genitique Clinic จะทำให้คุณได้รับการดูแลด้วยมาตรฐานสูงสุดจากผู้เชี่ยวชาญด้านความงามเฉพาะทาง ที่ทุ่มเทเพื่อแก้ปัญหาความงามและสุขภาพทางเพศให้แก่ทุกคน เราผสมผสานความเป็นเลิศทางการแพทย์ เพื่อนำมาใช้ร่วมกับเทคโนโลยีขั้นสูง ออกมาเป็นโปรแกรมการรักษาที่หลากหลาย เพื่อปรับปรุงทั้งรูปลักษณ์ และการทำงานให้กับน้องสาวและน้องชายที่บกพร่อง ไม่ว่าคุณต้องเผชิญกับปัญหาจุดซ่อนเร้นเรื่องใด ขั้นตอนการรักษาที่ทันสมัยของเราจะช่วยแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ที่สำคัญตั้งแต่วินาทีแรกที่ก้าวเข้ามาในคลินิก คุณจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นส่วนตัว ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกปลอดภัยและมั่นใจมากยิ่งขึ้นตลอดกระบวนการรักษาที่คลินิกของเราอย่างแน่นอน